รีแบรนด์ดิ้งใหม่ไปกับ Siam Center หันใช้มัลติมีเดีย สร้างความแตกต่าง |
![]() |
![]() |
![]() |
เขียนโดย ทีมข่าว ETPNEWS |
วันเสาร์ที่ 20 กรกฏาคม 2013 เวลา 17:02 น. |
สำหรับสยามเซ็นเตอร์เป็นศูนย์การค้าระดับมาตรฐานสากลแห่งแรกและทันสมัยที่สุดของประเทศเปิดดำเนินการมานับตั้งแต่ พ.ศ. 2516 และปรับโฉมสยามเซ็นเตอร์ในครั้งนี้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงรูปโฉมทั่วไป แต่เป็นการปฏิวัติสู่ยุคใหม่ของวงการค้าปลีก The Retail Revolution โดยได้บัญญัตินิยามใหม่ รูปแบบใหม่ ที่บริษัทสยามพิวรรธน์ จำกัด ตั้งใจปฏิวัติวงการศูนย์การค้าไทย หวังสร้างจุดขายและดึงดูดใจลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้เข้ามาเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่เป็น “The Most Powerful Retail Phenomenon” ซึ่งไม่เคยปรากฏที่ใดมาก่อนในโลก ลูกค้าจะมีความรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทุกครั้งที่เดินเข้ามาในสยามเซ็นเตอร์ด้วยภาพต่างๆ ในจอที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นการโชว์ Moving Art Content ที่น่าตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ทางสยามเซ็นเตอร์ยังได้ทำ Collaboration กับศิลปินชื่อดังทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งจะเป็นสื่อในการแนะนำสินค้าของแบรนด์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ เช่น Digital Closet หรือ Digital Stylist ที่ลูกค้าสามารถจะลองเสื้อผ้าแฟชั่นผ่านจอทัชสกรีนระบบดิจิตอล ลูกค้าจะได้รับคำแนะนำในการเลือกสินค้า ได้ข้อมูลสินค้าฮอตไอเทม สินค้าคอลเลคชั่นใหม่ และไอเดียในการแต่งตัวใหม่ๆ ไปพร้อมๆ กับประสบการณ์ที่สนุกสนานอีกด้วย การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของสยามเซ็นเตอร์นี้ เริ่มจากการปรับพื้นที่ภายในทั้งหมดของสยามเซ็นเตอร์ ให้เป็นเสมือน platform ของงานศิลปะ แฟชั่น เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ เราได้เนรมิต คอนเซ็ปท์ช็อป (Concept Shops) ในรูปแบบอาร์ทฟอร์มที่ร้านค้าแบรนด์ต่างๆ จะอยู่ในคอนเซ็ปท์ช็อปรูปทรงแตกต่างกัน นอกจากนี้ สยามเซ็นเตอร์ได้จัดพื้นที่สำหรับแฟล็กชิปสโตร์แบรนด์ดังระดับโลก ขนาดพื้นที่ใหญ่ถึง 500 – 1,000 ตารางเมตร โดดเด่นด้วยหน้าร้านที่ตกแต่งด้วยกระจกทั้ง 4 ด้าน ส่งผลให้แต่ละแบรนด์สามารถออกแบบตกแต่งร้านที่สะท้อนภาพลักษณ์ได้อย่างเต็มที่อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โซโห ย่านสำคัญของนครนิวยอร์ค คือ หนึ่งในแรงบันดาลใจหลากหลายที่นำมาสร้างสรรค์ สยามเซ็นเตอร์รูปโฉมใหม่“ในย่านโซโห คุณจะเห็นส่วนผสมที่เหนือกาลเวลาและความมีชีวิตชีวาของ ศิลปะ แฟชั่น และเทคโนโลยี ที่ถูกนำเสนอในรูปแบบที่สอดคล้องกับบรรยากาศที่ตื่นเต้นและมีพลัง เป็นสถานที่เดียวในโลกที่ร้านค้าทุกประเภทจากแบรนด์ดังระดับโลกจนถึงร้านอาหารได้ปรับตัวให้เข้ากับบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่มีบุคลิกเฉพาะอันโดดเด่นของย่านนี้ ในขณะเดียวกันแต่ละร้านก็รักษาไว้ซึ่งคอนเซ็ปท์ที่ทำให้ตัวแบรนด์มีความพิเศษและมีคุณค่าของตนเองที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ในวันนี้ เป็นครั้งแรกที่ทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมานี้ จะเกิดขึ้นภายใต้หลังคาเดียวกัน คือ ณ สยามเซ็นเตอร์” หากใครที่ชื่นชอบกับการท่องโลกออนไลน์ ภายในบริเวณสยามเซ็นเตอร์มีจุดให้บริการฟรีไว-ไฟ กับมุมนั่งพักผ่อนสบายๆ จากผู้ให้บริการต่างๆ อาทิ ทีโอที ทรู เอไอเอส และดีแทค เป็นต้น โซนต่างๆ ภายในสยามเซ็นเตอร์ได้แบ่งการจัดพื้นที่ชั้นต่างๆ ให้มีความโดดเด่นทั้งในด้านแบรนด์สินค้าและการตกแต่งที่มีความเฉพาะตัว อาทิเช่น Fashion Avenue (ชั้น 1) ซึ่งประกอบด้วยร้านแฟล็กชิปสโตร์ของแบรนด์ชื่อดังระดับโลก ในพื้นที่ร้านขนาดใหญ่ ตกแต่งพื้นที่ในลุกส์โปร่ง สบายตา ฟรีฟอร์ม และเปิดพื้นที่ทางเดินส่วนกลางให้โล่งกว้าง, Fashion Galleria (ชั้น 2) พื้นที่ของอินเตอร์แบรนด์เสื้อผ้าและแอ็คเซสเซอรี่ ทั้งกลุ่มแฟชั่นและกลุ่มคอสเมติก มีการจัดพื้นที่แบบ Concept Shop ซึ่งทุกร้านค้าออกแบบการตกแต่งร้านสุดทันสมัยและมีรูปทรงแปลกตา, Fashion Visionary (ชั้น 3) ศูนย์รวมแบรนด์ดีไซเนอร์ไทยชั้นนำครบครันที่สุดในประเทศไทย ที่เหล่าดีไซเนอร์ต่างออกแบบเนรมิตร้านใหม่ทั้งหมด Food Factory (ชั้น 4) แหล่งแฮงค์เอ้าท์สุดฮิปแห่งใหม่ใจกลางเมือง ด้วยภัตตาคาร ร้านอาหารนานาชาติ รวบรวมร้านเด็ดจานดังมากมายท่ามกลางบรรยากาศแปลกใหม่ โอ้! เกือบลืมไฮไลท์สำคัญสำหรับสาวๆ กับห้องน้ำสุดเก๋ ที่ไม่ใช่เป็นแค่ห้องน้ำ แต่มีมุมเมคอัพของเครื่องสำอางแบรนด์ดังๆ มาให้ได้ลองใช้ พร้อมห้องแต่งตัว (ขอบอกว่าหากวันไหนมีนัดดินเนอร์แวะมาเติมความสวยกันได้ในห้องน้ำอยู่ชั้นล่าง) โดยต้องเดินลงบันไดซึ่งเป็นบันไดที่เก๋มาก เพราะสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบตลอดเวลาไม่ซ้ำใครอีกด้วย |