บทความ : อนาคตของคอมพิวเตอร์ - คอมพิวเตอร์ที่มองไม่เห็น PDF พิมพ์ อีเมล
เขียนโดย อาจารย์พรพิสุทธิ์ มงคลวนิช, อธิการบดีวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม   
วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2013 เวลา 12:11 น.

 

ในช่วงปี ค.ศ. 2000 เทอมสุดท้ายที่มหาวิทยาลัยฮาวาร์ด ผมได้ลงทะเบียนเรียนในวิชา " อนาคตของคอมพิวเตอร์ " (Future of Computers) ที่สอนโดย ดร. คาเรน ไพรท (Dr. Karen Price) โดยได้มอบหมายให้นักศึกษาอ่านหนังสือประกอบเป็นจำนวนมาก แต่หนังสือเล่มหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้ผมคิดถึงอนาคตของคอมพิวเตอร์เป็นอย่างยิ่ง คือหนังสือของ โดนัล นอร์แมน (Donald Norman) ชื่อว่า "The Invisible Computer: Why Good Products can Fail, the Personal Computer is So Complex, and Information Appliances are the Solutions" หรือ "คอมพิวเตอร์ที่มองไม่เห็น" ถึงแม้เนื้อหาของหนังสือเล่มดังกล่าวจะน่าสนใจและมีเหตุมีผล แต่ยากนักที่จะเชื่อว่าคอมพิวเตอร์จะเข้าสู่ยุค "ที่มองไม่เห็น" ในเวลาอันใกล้ เมื่อมองจากช่วงเวลาที่พัฒนาการด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มีการเจริญเติบโตเร็วที่สุด



เมื่อมองเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ในช่วงปี ค.ศ. 2000 พบว่า คอมพิวเตอร์ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์ มนุษย์เปิดกว้างที่จะเข้าใจและยอมเดินตามเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์อย่างไร้การต่อรอง ศัพท์เทคนิคทางด้านคอมพิวเตอร์หลายคำกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการสนทนาทั่วไป บุคคลหรือนักธุรกิจทิ้งคอมพิวเตอร์เก่าเพื่อแลกมาซึ่งคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ในเวลาไม่กี่เดือนเพื่อให้ทันเทคโนโลยี ทั้ง ๆ ที่คอมพิวเตอร์เครื่องเก่านั้นเองก็สามารถใช้ทำงานที่ต้องการได้เป็นอย่างดี ตู้ประมวลผล (CPU) และ จอแสดงผล (Monitors) มีให้เห็นอยู่ทุกที่อย่างช่วยไม่ได้โดยไม่มีใครคำนึงถึงความสวยงามของสถานที่มากนัก สิ่งที่กล่าวมาคือสัญญานของการปฎิสัมพันธ์กับเทคโนโลยีในรูปแบบ "Technology Driven" หรือ การที่เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนพัฒนาการ ซึ่งเทคโนโลยีทางด้านคอมพิวเตอร์ ในช่วงเวลาดังกล่าว ถือว่าเป็นการขับเคลื่อนที่รวดเร็ว มากมาย และเป็นที่ยอมรับอย่างที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์ จะมีใครเชื่อว่าในอนาคตอีกไม่กี่ปีต่อมาคอมพิวเตอร์จะค่อยๆเปลี่ยนจาก "Technology Driven" มาเป็น "Consumer Driven" ดังเช่นปัจจุบัน

โลกปัจจุบันปี ค.ศ. 2012 หรือ พ.ศ. 2555 ช่วงเวลาที่อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เราเคยรู้จักมีให้เห็นน้อยลง แต่แทนที่ด้วยอุปกรณ์ใหม่ที่เน้นความสวยงามและเหมาะกับสภาพแวดล้อม การสนทนาที่เคยเน้นประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ก็ถูกแทนที่ด้วยการพูดคุยเกี่ยวกับการต่อเชื่อมอินเทอร์เน็ตและการใช้งานเฉพาะด้าน งานที่ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นส่วนที่จัดการก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของความสามารถที่เพิ่มขึ้นของอุปกรณ์อื่นๆ (เช่นการจัดการสื่อเสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว ที่ปัจจุบันเป็นมาตรฐานของเครื่องเสียงรถยนต์ เราควรเปลี่ยนจากการเรียก "เครื่องเสียง" เป็น "ระบบจัดการสื่อในรถยนต์" จะเหมาะกว่าไหม) และดูเหมือนสมาร์ทโฟน (Smart Phone) และแท็บเล็ต(Tablet) จะเริ่มเข้ามาแทนความสำคัญของคอมพิวเตอร์ที่เราเคยรู้จัก เมื่อเทคโนโลยีการเชื่อมต่อข้อมูลผ่านทางอากาศดังเช่นเทคโนโลยีที่เรียกว่า "Cloud Computing" หรือ "เครือข่ายข้อมูลกลุ่มเมฆ" ได้ถูกพัฒนาอย่างเต็มที่ คอมพิวเตอร์ที่เคยเป็นสิ่งที่จับต้องได้ก็จะกลายเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ในทันที ผมคาดว่าเราจะเห็นคอมพิวเตอร์ที่เราคุ้นเคยแต่ในอดีตน้อยลงจนแทบจะไม่เห็นอีกเลย ในยุคนี้ มนุษย์ไม่ได้เดินตามการพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ดังที่ผ่านมาอีกต่อไป แต่เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กำลังปรับตัวเองตามความต้องการของมนุษย์ สมาร์ทโฟนอาจไม่สามารถทำงานได้หลากหลายเท่าคอมพิวเตอร์ในอดีต แต่ก็สามารถทำงานได้เพียงพอสำหรับความต้องการของมนุษย์และง่ายต่อการใช้งาน เพราะการใช้งานจะถูกจำกัดให้ใช้งานเฉพาะทาง ดูเหมือนในที่สุดพัฒนาการทางเทคโนโลยีจะต้องเปิดทางให้ความต้องการที่แท้จริงของมนุษย์ที่ต้องการสิ่งที่มีประสิทธิภาพและใช้งานได้ง่ายไม่ว่าจะมองเห็นเป็นตัวตนหรือไม่ และดูเหมือนว่าช่วงเวลาที่เรียกว่า "คอมพิวเตอร์ที่มองไม่เห็น (Invisible Computer)" นั้น ได้เกิดขึ้นจริงตามที่ นอร์แมน ระบุไว้ในหนังสือแล้ว

 

แก้ไขล่าสุด ใน วันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2013 เวลา 12:19 น.
 
 
 
ankara escort ankara escort ankaya escort ankaya escort escort bayan ankaya istanbul rus escort eryaman escort ankara escort kızılay escort istanbul escort ankara escort ankara escort escort ankara istanbul rus Escort atasehir Escort beylikduzu Escort Ankara Escort malatya Escort kuşadası Escort gaziantep Escort izmir Escort